Recent Posts

“Hello” the iPhone Turn 10

วันนี้ วันที่ 29 มิถุนายน 2017 เป็นวันที่ iPhone มีอายุครบ 10 ปีพอดี (วันที่เริ่มจำหน่ายวันแรกคือวันที่ 29 มิถุนายน 2007) ซึ่งถ้าเรามานั่งนึกย้อน ๆ ไป ก็จะพบว่า Steve Jobs ได้สร้าง iPhone ให้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายในวงการ Smartphone

เนื่องด้วยโอกาสครบรอบ 10 ปีของ iPhone นี้เอง ลองชมวีดีโอบทสัมภาษณ์ของบุคคล 4 คนแรกของโลก ที่ไม่ใช่พนักงานของ Apple ที่มีโอกาสได้สัมผัสและรีวิว iPhone ในปีนั้นกันครับ ลองชม

 

“Happy 10th Birthday, iPhone”

 

 

via: the iphone turns 10

วันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว – Today’s 10 years ago

วันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว วันที่ 9 มกราคม 2007 Steven Paul Job ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ ในกลุ่มตลาดใหม่จาก Apple ที่เป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลก และทำให้โลกของโทรศัพท์มือถือเปลี่ยนไปตลอดกาล ใช่แล้วครับ มันคือ iPhone.

Today’s 10 years ago. January 9, 2007 Steve Paul Jobs has announce new products, new line of products from Apple. That was changes the world and the mobile phones never be the same again. Yes, that was an iPhone

 

iPhone, Changes phones forever

 

 

 

 

ไปดูมาแล้ว Steve Jobs

ภาพจาก Internet

หนังเรื่อง Steve Jobs เพิ่งจะเข้าฉายบ้านเราเมื่อไม่กี่วัน สร้างจากหนังสือชีวิตประวัติของ Steven Paul Jobs หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Apple กับ Stephen Gary Wozniak เมื่อปี 1976 หนังสือนี้เขียนโดย Walter Isaacson ผมเองก็ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ไปแล้ว 2 รอบ (ฉบับภาษาอังกฤษ) แม้ว่าหนังสือนี้จะหนาเกือบ 700 หน้า แต่ก็อ่านได้สนุกมาก ๆ แนะนำให้หาอ่านกันครับ หนังสือเล่มนี้มีฉบับแปลเป็นไทยด้วย แต่ถ้าอ่านภาษาอังกฤษได้ ผมขอแนะนำอ่านฉบับภาษาอังกฤษดีกว่า

กลับมาที่เรื่องหนัง Steve Jobs หนังเรื่องนี้สร้างจากหนังสือชีวิตประวัติของ Steve Jobs ก็จริง แต่ด้วยเรื่องของเวลาจำกัด หนังเรื่องนี้เสนอเรื่องราวของ Steve Jobs ได้สัก 30% เองมั้ง เพราะว่าชีวิตคน 1 คน คงจะไม่สามารถยัดไว้ในหนังเพียงแค่ 120 นาทีได้แน่นอน

เมื่อมันเป็นหนัง แน่นอนมันก็มีการใส่สีสรร และความเป็นดราม่าเข้าไปพอสมควร แต่ก็ยังคงมีเนื้อหาที่อิงประว้ติและตัวตนของ Steve Jobs ได้เป็นอย่างดี ที่ผมจะเขียนนี้ ผมจะไม่วิจารณ์นักแสดงว่ามีความเหมือนหรือคล้ายหรือไม่อย่างไร แต่จะเน้นไปที่ประเด็นบางส่วนของหนังเท่านั้น และผมจะพยายามไม่สปอยสำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู ^__^

เหตุการณ์ที่(อาจจะ)​ไม่ได้เกิดขึ้นจริง

ในช่วงหนึ่งของหนัง เล่าถึงก่อนที่ Steve Jobs จะขึ้นเวทีเพื่อเปิดตัว iMac G3 รุ่นใหม่ ที่เป็นรุ่นพลาสติคที่สามารถมองเห็นภายในตัวเครื่อง ซึ่งเล่าถึงเหตุการณ์ที่ Steve Wazniak ได้มาพบกับ Steve Jobs เพื่อขอให้ทำอะไรบางอย่าง แล้วก็มีช่วงหนึ่งที่ Steve Jobs ถามถึงนาฬิกาที่ Steve Wozniak ใส่อยู่ ซึ่งก็คือ Nixie Watch ที่เป็นนาฬิกาที่ใช้หลอดไฟสูญญากาศ (Tube) ในการแสดงผลตัวเลข (หลอดสูญญากาศนี้คล้าย ๆ กับที่อยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยโบราณ)

 

อ่านต่อ » ไปดูมาแล้ว Steve Jobs

Dejavu : Apple ยุคไร้ Steve Jobs (ครั้งสุดท้าย)

Dejavu : Apple ยุคไร้ Steve Jobs (ครั้งสุดท้าย)

ถ้อยความเหล่านี้เป็นมุมมองส่วนตัวของผมเอง

ถ้าคุณยังจำได้ เมื่อครั้งเก่าก่อน ยังไม่นานเท่าใด เมื่อยุคก่อน ยุคที่ Apple ไร้ซึ่งเงาของ Steve Jobs ครั้งแรก หลังจากที่เค้าโดนไล่ออกจาก Apple ในตอนนั้น Apple เริ่มสะเปะสะปะ ผลิตคอมพิวเตอร์ออกมาหลากหลายรุ่น และแต่ละรุ่นก็มีความใกล้เคียงและคาบเกี่ยวกันจนเกินไป ทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสน งงงวย ไม่รู้ว่าจะเลือกสินค้าตัวไหนดี* จนถึงกับไม่ซื้อ เพราะตัดสินใจไม่ได้

*ทำให้สินค้าคงคลังสูงมาก จนกลายมาเป็นภาวะขาดทุน และขาดทุนสะสมในที่สุด

จนเมื่อ Steve Jobs กลับมาบริหารงานที่ Apple อีกครั้ง เค้าได้ให้พนักงานขายของ Apple แนะนำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับเค้าสักเครื่องหนึ่ง พนักงานขายก็ยังไม่สามารถบอกข้อแตกต่างของแต่ละรุ่น และ/หรือบอกเหตุผลที่จะให้เค้าเลือกคอมพิวเตอร์รุ่นใดรุ่นหนึ่งได้ และสุดท้าย Steve Jobs ก็จัดการด้วยการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เหลือเพียงรุ่น Pro และ Consumer เท่านั้น โดยแยกออกเป็น 2 กลุ่มคือ Desktop และ Laptop จึงทำให้สุดท้ายเหลือรุ่นของคอมพิวเตอร์ที่ Apple ผลิตออกมาจำหน่ายเพียง 4 รุ่นเท่านั้น

– Desktop สำหรับ Pro
– Desktop สำหรับ Consumer
– Laptop สำหรับ Pro
– Laptop สำหรับ Consumer

วิธีการที่ Steve Jobs ทำก็คือ ขีดเส้นตรงกากบาท แล้วเขียนตัวอักษร Pro และ Consumer เพื่อแบ่งรุ่นของเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวข้างต้น *ลองไปหาอ่านจากหนังสือประวัติ์ Steve Jobs หรือ Apple ได้ครับ มีเขียนไว้มากมาย

จากนั้น Apple ก็เข้าสู่ยุคเจริญรุ่งเรืองเรื่อยมา เรื่อยมา เรื่อยมา…..

จนมาถึงยุคที่ Apple ไร้ซึ่ง Steve Jobs อีกครั้ง (ครั้งสุดท้าย) แต่คราวนี้ต่างออกไป เพราะ Steve Jobs ไม่สามารถกลับมาทำงานกับ Apple ได้อีกแล้ว แม้ว่าเค้าอาจจะได้ฝัง DNA ของเค้าเอาไว้กับ Apple ค่อนข้างเยอะ แต่ความเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่:

– Apple เปิดตัว iPhone 5S และ iPhone 5C กลายมาเป็น iPhone หลายรุ่น หลายสีให้ลูกค้าเลือก เริ่มมีตัวเลือกให้สับสน แต่ยังขายดีอยู่
– มาถึง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่มีขนาดหน้าจอไม่เท่ากัน และมี Spec ต่างกันเล็กน้อย ทำให้ตัดสินใจเลือกซื้อยาก แต่ก็อือม… ยังขายดีอยู่ *ขณะเดียวกันยังมี iPhone 5S ให้เลือกซื้ออีก 2 ขนาดความจุ
– Apple เริ่มมีเครื่องคอมพิวเตอร์หลากหลายรุ่น หลากหลาย Spec ทำให้ผู้ใช้สับสนว่าจะซื้อตัวไหนดี Laptop มี MacBook (เปิดตัว 9 มี.ค. 58) และยังมี MacBook Air และ MacBook Pro (ซึ่งมีทั้งรุ่นจอธรรมดาและจอ Retina อีก) ทางฝั่ง Desktop ก็มี Mac mini และ iMac (2 รุ่น) สำหรับ Consumer และมี Mac Pro สำหรับตลาดกลุ่ม Pro ลอง ๆ นับกันดูว่ามีเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เลือกกี่รุ่นแล้ว เริ่มเลือกยากแล้ว
– วันนี้มี Apple Watch ที่ออกมา 3 รุ่น แตละรุ่นที่มี 2 ขนาด ทำให้กลายมาเป็น Apple Watch ถึง 6 แบบให้เลือก และถ้านับไปถึงการที่สามารถเลือกสายนาฬิกาได้อีกหลายหลายแบบ ทำให้กลายมาเป็น Apple Watch หลายสิบรุ่นให้ลูกค้าสับสน งงงวย และตัดสินเลือกได้ยากขึ้น แต่ก็น่าจะยังขายดีอยู่

ดูเหมือนว่า Apple เริ่มจะเดินเส้นทางนี้อีกครั้ง เหมือนครั้งที่ Steve Jobs จาก Apple ไปครั้งแรก นี่ไง Dejavu ที่ผมกำลังคิด มันจะกลายมาเป็น Apple ยุคที่ไร้ Steve Jobs ที่จะทำให้ Apple ตกต่ำลงเรื่อย ๆ อีกหรือไม่??? ลองแลกเปลี่ยนความเห็นกันดูครับ

*อนึ่ง ดู ๆ แล้วก็อาจจะยังไม่มีใคร หรือบริษัทใดผลิตสินค้าออกมาตีตลาดได้ดีเท่า Apple ในวันนี้ แต่ใครจะรู้ วันหนึ่งอาจจะมีก็ได้…..

 

Link Back: https://www.facebook.com/SK.Unavailable/posts/10152788276111819

 

 

Steve Jobs introducing iPhone today, 8 Years ago

วันนี้ เมื่อ 8 ปีที่แล้ว (9 มกราคม 2007) Steve Jobs ได้เปิดตัว iPhone รุ่นแรกของโลก คงไม่มีใครกล้าปฎิเสธว่าโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออื่น ๆ ต่างก็ลอกเลียนแบบการวางไอคอน (icon) และหน้าจอสัมผัสมาจาก iPhone ซึ่งนั่นเป็นการเปลี่ยนโลกโทรศัพท์มือถือตั้งแต่นั้นมา ดังคำกล่าวที่ว่า

 

 

“iPhone, Changed Phones forever”

 

 

ลองไปชมภาพบรรยากาศวันนั้นกันอีกครั้ง

 

เมื่อผมสมัครงานกับบริษัทขายผลไม้

ช่วงเดือน กรกฎาคม ปี 2013 ตอนนั้นผมเดินทางไปปักกิ่ง เพื่อช่วยดำเนินการย้ายสำนักงานไปที่ใหม่ ผมได้รับการติดต่อจากฝ่ายบุคคลของบริษัทขายผลไม้จากคูเปอร์ติโน่ ประจำสาขาสิงคโปร์ เพื่อขอสัมภาษณ์งานในตำแหน่งที่ผมสมัครเอาไว้ก่อนหน้านั้น

สัมภาษณ์รอบแรก

ผมแจ้งไปว่า ผมกำลังเดินทางมาทำงานที่ปักกิ่งนะ เค้าก็ตอบกลับมาว่า จะสัมภาษณ์ด้วย FaceTime ซึ่งที่เมืองจีนน่าจะใช้งานได้ไม่มีปัญหา ผมก็เลยตอบตกลงนัดหมายวันและเวลากัน พอถึงวันและเวลาที่นัดหมาย ผมก็กลับไปที่โรงแรมก่อนเวลาเล็กน้อย เพื่อเตรียมเชื่อมต่อ iPad เข้า Internet ให้เรียบร้อยแล้ว และทดสอบการใช้ FaceTime กับครอบครัว 1 รอบ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

บรรยากาศการสัมภาษณ์เป็นไปแบบสบาย ๆ เป็นการพูดคุยกับทางฝายบุคคล ที่เป็นผู้หญิงชาวสิงคโปร์ เน้นการสอบถามถืงประวัติการทำงานของผมโดยภาพรวม พูดคุยถึงประสบการณ์ในการทำงาน และสอบถามถึงงานที่จะต้องทำที่บริษัทขายผลไม้นี้ เพื่อดูว่าเนื้องานนั้นจะตรงกับประสบการณ์ของผมหรือไม่ ซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี

ผมสัมภาษณ์ไป 44 นาที ด้วย FaceTime ทั้งวีดีโอและเสียงแบบไม่ติดขัดเลย ทำให้พบว่า Apple นั้นออกแบบระบบ FaceTime ได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ เวลา 44 นาทีนั้น มีการรับและส่งขัอมูลเพียง 157 MB เท่านั้น นี่คือความสามารถของการออกแบบระบบการสื่อสารที่ทำให้โลกเล็กลงมาก อยู่ที่ไหน ๆ ก็สามารถติดต่อกันได้ทั้งภาพและเสียง เพียงแค่เข้าถึง Internet ได้เท่านั้น

 

 

นอกเรื่อง  เพราะความสะดวกและความสามารถของ FaceTime นี้เอง ทำให้ผมไม่ว่าจะเดินทางไปประเทศไหน จะพยายามหา SIM 3G ของท้องถิ่นเอาไว้เสมอ เพื่อการติดต่อกับทางครอบครัวเป็นหลัก ไปเที่ยวที่ไหน ๆ ก็สามารถเอาภาพที่ตาเราเห็น ให้คนทางบ้านเห็นได้พร้อม ๆ กัน ประหนึ่งว่าเดินทางมาด้วยกัน ถ้าไม่มีคนอย่าง Steve Jobs เราก็อาจจะไม่ได้ระบบการติดต่อสื่อสารแบบนี้ก็เป็นได้

 

 

การสัมภาษณ์รอบสอง

ประมาณเดือนตุลาคม ผมได้รับการติดต่อกลับมาจากฝ่ายบุคคลคนเดิม แจ้งว่าให้เข้าไปที่สำนักงานบริษัทขายผลไม้ สาขาประเทศไทย เพื่อทำการสัมภาษณ์รอบที่ 2 และแจ้งให้ผมเตรียมทำ presentation อะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับสินค้าของบริษัทขายผลไม้นี้ ผมก็เลยทำไปเรื่องที่เกี่ยวกับ iOS

เค้ายังแจ้งอีกว่า จะมีเจ้าหน้าที่ของทางเค้าประมาณ 10 คนในห้องที่จะสัมภาษณ์ผม ซึ่งมีทั้งชาวต่างชาติและคนไทย ผมก็สบาย ๆ เพราะว่าเคยโดนรุมสัมภาษณ์แบบนี้มาหลายครั้งแล้ว กลัวซะที่ไหน  นอกจากนี้แล้ว ยังระบุอีกว่าการแต่งตัวให้เป็นแบบ Business Casual ผมก็เลยไปถามเพื่อนผมที่ชื่อ Google ดูว่าการแต่งกายแบบ Business Casual นั้นเป็นแบบไหน คำตอบที่ได้ก็คือ ใส่เสื้อยืดได้ การเกงยีนส์ก็ได้ แต่ว่าอย่าให้มันฉูดฉาดและบ้าระห่ำจนเกินไป ซึ่งก็คือวัฒนธรรมแบบฝรั่งทั่วไป ที่ผมก็แต่งตัวแบบนี้ทำงานอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ใส่ชุดทำงานทุกวันนั่นแหล่ะไปสัมภาษณ์ได้เลย ^__^

เมื่อถึงวันสัมภาษณ์ ผมเดินทางไปถึงก่อนเวลาเกือบครึ่่งชั่วโมง ซึ่งเป็นมารยาทมาตรฐานที่เราควรจะไปถึงสถานที่สัมภาษณ์ก่อนเวลานัดสักหน่อย พอไปถึงแล้ว สักพักหนึ่งฝ่ายบุคคลท่านเดิมก็ส่ง iMessage* ถามผมว่ามาถึงหรือยัง ผมก็ตอบไปว่าอยู่ที่ห้องโถงของบริษัทของเค้าแล้ว เค้าตอบกลับมาว่าให้รอสักครู่ กำลังสัมภาษณ์อีกคนนึงอยู่

ผมรอไม่นานนักก็ถูกเชิญให้เข้าห้องสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นไปตามที่ได้รับการบอกกล่าวเอาไว้ มีคนอยู่ในห้องนั้น 10 คน รอเชือดผมอยู่ เป็นคนไทย 3 ที่เหลือคือฝรั่งชาวอเมริกันทั้งหมด พอทักทายกันนิดหน่อย เค้าก็บอกให้ผมเริ่มทำการ present ตามที่เตรียมมา และเค้าเสริมอีกว่า เค้าอาจจะให้ผมหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าเค้าคิดว่าเพียงพอแล้ว และจะต่อด้วยการพูดคุยกัน แล้วผมก็เริ่มร่ายมนต์ presentation ของผม ระหว่างนั้นก็มีคำถามบ้างเล็กน้อย หลาย ๆ เรื่องเป็นเรื่องที่ผมเอามาเล่าใหม่ เช่น เรื่องวันและเวลาที่ iPhone เริ่มเข้ามาขายในเมืองไทยครั้งแรก ผมเห็นว่าเจ้าหน้าที่คนไทยบางคนนั่งนึกตามและพยักหน้าตามไปด้วย แสดงว่าเค้าจำได้เหมือนกัน  ^_^ ผม present ไปได้ประมาณ 10 นาที เค้าก็บอกว่าพอแล้ว

และก็เริ่มการคุยกัน ผมโดนคน 6 คนรุมถามเป็นภาษาอังกฤษในเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวผม ตำแหน่งงานที่เค้าจะรับ มุมมองและความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวผลไม้ชนิดนี้ ถามถึงเรื่องร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายผลไม้ของเค้า และอีกมาก ใช้เวลาไปอีกประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้ สุดท้ายก็จบและคุณฝ่ายบุคคลก็เดินออกมาส่งถึงหน้าประตูออฟฟิศและบอกว่าจะติดต่อกลับมา

* นี่เป็นอีกครั้งที่เค้าใช้ความสามารถและระบบพื้นฐานที่ Apple ออกแบบเอาไว้อย่างดี เอามาใช้ในการสื่อสารกับผมได้ฟรี ๆ ไม่ต้องเสียค่าส่ง SMS ทางไกลระหว่างประเทศ

 

สรุป

สองสัปดาห์ต่อมา ผมได้รับอีเมล์จากฝ่ายบุคคลคนเดิม บอกว่าผมไม่ผ่านการสัมภาษณ์รอบ 2 ที่กรุงเทพฯ แต่ไม่ได้แจ้งเหตุผลที่ชัดเจน และบอกว่าถ้าผมมีข้อสงสัยอะไรให้ถามได้ ผมก็ถามไปเหมือนกัน แต่ไม่ได้รับการตอบกลับมา ซึ่งก็ไม่เป็นไร

การที่ผมไม่ได้งานกับบริษัทขายผลไม้นี้ ถ้าถามว่าเสียใจหรือไม่? ผมตอบได้เลยว่า ไม่เสียใจ เพราะว่าการสัมภาษณ์งานก็เป็นแบบนี้ อาจจะมีผิดหวังบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมมีความรู้สึกเสียดายมากกว่า เพราะอยากไปเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทขายผลไม้นี้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร เค้าจะยังมีตำแหน่งต่าง ๆ เปิดขึ้นมาอีกแน่นอน เอาไว้สมัครใหม่ในวันหน้า และสุดท้าย ผมไม่ได้งานกับบริษัทขายผลไม้นี้ก็ดีนะ ไม่งั้นผมก็คงไม่ได้ทำงานในตำแหน่งที่ทำอยู่ตอนนี้ ^__^

 

ผมเขียนเล่าซะยืดยาว ขอขอบคุณที่อ่านกันจนจบ และคุณ ๆ อ่านแล้วไม่รู้เลยใช่มั้ยว่าบริษัทผลไม้นี้คือบริษัทอะไร? ^______________^ เพื่อน ๆ ท่านใดมีความเห็นอะไรที่อยากจะแบ่งปัน ก็เมล์มาคุยกันได้นะครับที่ iamsk@outlook.com

 

วันนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว Steve Jobs เปิดตัว iPhone เป็นครั้งแรก

วันนี้ (วันที่ 9 มกราคม 2007 ตามเวลาท้องถิ่นของอเมริกา เมืองไทยเข้าสู่วันที่ 10 แล้ว) ซึ่งก็คือ 7 ปีที่แล้ว Steven Paul Jobs ได้เปิดตัว iPhone ออกสู่สาธารณะชนเป็นครั้งแรก ร่วมรำลึกถึงวันนั้นกันกับวีดีโอนี้ครับ

 

 

 

วันนี้เมื่อ 11 ปีที่แล้ว Steve Jobs เปิดตัว iPod

ภาพ iPod 2nd Generation เครื่องแรกของผม / Picture of 2nd Generation iPod, my first iPod

 

วันนี้เมื่อ 11 ปีที่แล้ว (วันที่ 23 ตุลาคม 2001) Steve Jobs ได้ปฎิวัติวงการเครื่องเล่นเพลงพกพา ด้วยการเปิดตัว iPod และนั่นเป็นครั้งแรกที่เราสามารถมีเพลง 1,000 เพลงไว้ในกระเป๋าเสื้อ(หรือกางเกง) ภาพข้างบนคือ iPod 2nd Generation ความจุ 20GB ที่ผมซื้อมาใช้เป็นเครื่องแรก และเป็นสินค้าของ Apple ชิ้นแรกที่ผมซื้อมาใช้งานเอง.

Today’s 11 Years ago (October 23, 2001). The day Steve Jobs unveiled the iPod, he invent the new Portable Music Player. It was the first time that we can have a 1,000 songs in our pocket. Photo above is my 2nd Generation iPod (20GB). Its was my first iPod and also my first own Apple products.

วีดีโอ/Video :

#iPod #11Years #October23  #SteveJobs

 

Photo Stream on PC

Steve Jobs เปิดตัวความสามารถของ iCloud ที่เรียกว่า Photo Stream เป็นครั้งแรกในงาน WWDC 2011 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2011 ครั้งนั้นเค้าก็นำเสนอให้เห็นว่า Photo Stream จะช่วยให้เราสามารถจัดการรูปที่เราถ่ายผ่าน iPhone, iPad ได้ง่ายขึ้น เพราะว่ารูปที่เราถ่ายจาก iPad, iPhone ตัวใดก็ตาม จะถูก upload ขึ้น iCloud ทำให้เราสามารถเปิดดูรูปเหล่านั้นบน iPad, iPhone ผ่านทาง Photo Stream ได้ในทันที (แม้ว่าจะไม่ใช่เครื่องที่ถ่ายรูปนั้น ๆ ก็ตาม)

แล้วถ้าเป็นเครื่อง Mac ก็จะสามารถเปิดรูปเหล่านั้นได้ทันทีเช่นเดียวกันผ่านทางโปรแกรม iPhotos และยังสามารถโอนรูปจากในเครื่อง Mac ขึ้นสู่ Photo Stream เพื่อให้เครื่อง iPhone, iPad สามารถเปิดได้เช่นกัน  แต่…. สำหรับ PC ที่ใช้ Windows ณ วันนั้น Steve Jobs ยังไม่ได้บอกว่าจะมีวิธีการจัดการรูปจาก Photo Stream อย่างไร??

เวลาผ่านไป 1 ปี 5 เดือน วันนี้ Apple ได้ update ฟังก์ชัน iCloud รุ่น 2.0 สำหรับ Windows ที่เพิ่มความสามารถ Photo Stream มาให้เรียบร้อยแล้ว ผมก็เลยถือโอกาสนำมาแนะนำครับ

รูปที่ 1

ฟังก์ชัน iCloud จะถูกติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งของ Control Panel ซึ่งคุณสามารถเข้าไปได้ด้วยวิธีการนี้ คลิกที่ Start -> Settings -> Control Panel (สำหรับ Windows XP) หรือ Start -> Control Panel (สำหรับ Windows Vista, Windows 7). เมื่อเข้าไปแล้วก็จะพบกับหน้าต่างของ iCloud 2.0 ตามรูปที่ 1

อ่านต่อ » Photo Stream on PC

ลือหึ่ง: ภาพหลุด iPhone 5 ตัวสมบรูณ์

เว็บ iLab เปิดเผยชุดภาพที่บอกว่าเป็นภาพของ iPhone 5 ตัวสมบรูณ์ ที่จะเป็นตัวที่วางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ ลองดูภาพกันไว้ก่อน แล้วมาลุ้นกันว่าจะเป็นไปตามนี้หรือไม่นะครับ

ภาพประกอบจากเว็บ iClarified.com

และยังมีอีกข่าวลือที่ผมอ่านผ่าน ๆ บนเว็บต่าง ๆ เค้าว่ากันว่า iPhone 5 จะเปิดตัววันที่ 5 ตุลาคม 2555 เพื่อรำลึกถึงวันเสียชีวิตของ Steven Paul Jobs. ฟังหูไว้หูนะครับ ทุกอย่างยังเป็นข่าวลือ

via: iClarified.com

วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว iPhone วางจำหน่ายเป็นวันแรก

ย้อนหลังไป 5 ปีที่แล้ว วันที่ 29 มิถุนายน 2007 คือวันแรกที่ iPhone รุ่นแรกของโลกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในอเมริกา และจากวันนั้นแม้ว่า iPhone จะวางจำหน่ายเฉพาะในอเมริกา แต่เรา ๆ ท่าน ๆ ก็ได้ใช้งานมัน ด้วยการแหกคุก (Jailbreak) และปลดล๊อค (Unlock) กันอย่างยากลำบาก รวมไปถึงความพยายามเพิ่มตัวอักษรไทย, คีย์บอร์ดไทยให้กับ iPhone ที่เราใช้งานกันอีกด้วย

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ต้องขอบคุณทีมงาน Apple และ Steve Jobs ที่สร้างสรรค์โทรศัพท์ iPhone ให้เราได้ใช้งานกันมาแล้ว 5 รุ่น (iPhone, iPhone 3G, iPhone 3GS, iPhone 4, และ iPhone 4S)

และเพื่อย้อนรำลึกถึงวันนั้น ผมขอนำเสนอวีดีโอโฆษณา iPhone ของ 5 ปีที่แล้ว เชิญชมครับ

วีดีโอโฆษณา iPhone ข้างต้นนี้ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2007 เพียง 25 วันก่อนวันวางจำหน่าย iPhone อย่างเป็นทางการ

 

และแถมด้วยวีดีโอโฆษณาเปิดตัว iPhone ที่ชื่อว่า “Hello”

อ่านต่อ » วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว iPhone วางจำหน่ายเป็นวันแรก

ยำข่าวลือ: iPhone 5

ข่าวลือเรื่อง iPhone 5 (หรือแล้วแต่ว่าจะชื่ออะไรก็ตาม) มีออกมาเยอะมาก ๆ และออกมาได้เกือบทุกวัน ผมก็เลยรอเก็บสะสมแล้วเอามาเขียนทีเดียวพร้อม ๆ กันเลย (ประกอบกับขี้เกียจด้วย ฮา)

เค้าลือเรื่องราวของ iPhone 5 กันไว้เช่นนี้ครับ

  • เค้าลือกันว่า iPhone 5 จะบางลงอีก 15%: เพราะว่าจะใช้ส่วนของจอภาพสัมผัสแบบใหม่ที่เรียกว่า In-Cell Touch Panels ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ของจอภาพแบบสัมผัส ด้วยความบางเพียง 7-8 มม. เทียบกับจอภาพของ iPhone 4S ที่มีความหนาเท่ากับ 9.3 มม. ซึ่งคาดกันว่า Apple น่าจะเลือกจอที่มีความบางน้อยกว่าหรือเท่ากับ 8 มม. ซึ่งก็เท่ากับว่าจะบางลงถึง 1.4 มม. แล้วมันจะทำให้ iPhone 5 บางลง 15% ได้อย่างไร? คำตอบที่ได้ก็คือน่าจะไปรวมกับเทคโนโลยีและองค์ประกอบอื่น ๆ ของตัวเครื่อง เช่น แบตเตอรี่, วัสดุที่ใช้ทำตัวเครื่อง, อุปกรณ์ภายในต่าง ๆ นั่นเอง via: Macrumors.com
  • เค้าลือกันว่า iPhone 5 จะใช้ Nano-SIM: เริ่มจาก iPhone 4 ที่ Apple ได้เปลี่ยนมาใช้ Micro-SIM  เป็นครั้งแรก Apple ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น Apple ได้ทำการวิจัยและออกแบบ Nano-SIM ใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อลดขนาดของ SIM ให้เล็กลง ซึ่งก็เพื่อที่จะให้ได้พื้นที่ใช้สอยภายในตัวเครื่อง iPhone มากที่สุด และ Apple จะไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ในการออกแบบ Nano-SIM  หากผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือค่ายอื่น ๆ ต้องการก็สามารถนำไปใช้งานได้ฟรี ๆ ซึ่งขณะนี้ Nano-SIM ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติเพื่อให้ผ่านการรับรองให้เป็น SIM ขนาดมาตรฐานต่อไป ดูหน้าตา Nano-SIM -> TheVerge.com
  • เค้าลือกันว่า iPhone 5 จะใช้ Dock Connector ขนาดเล็กลง: Dock Connector หรือช่องสำหรับเสียบสาย Sync/Charge เกิดมาพร้อม ๆ กับ iPod รุ่นแรก ๆ แล้วก็มีการนำมาใช้ต่อบน iPhone มาแล้ว 5 รุ่น ซึ่งรวมไปถึง iPod รุ่นต่าง ๆ ในปัจจุบันด้วย แต่ด้วยโจทย์ที่ว่าจะต้องทำให้เครื่อง iPhone 5 บางลง Apple ก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยน Dock Connector ให้มีขนาดเล็กลงก็เป็นได้ via: iLounge.com
  • เค้าลือกันว่า iPhone 5 จะใช้จอภาพขนาด 4 นิ้ว: iPhone วางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งผ่านมาแล้ว 5 รุ่น จอภาพมีการปรับให้เป็นจอแบบ Retina เพียงครั้งเดียวตั้งแต่ iPhone 4 มาจนถึง 4S  ก็ยังใช้จอแบบเดียวกับ iPhone 4 ซึ่งเท่ากับว่าผ่านมาแล้ว 5 รุ่น ขนาดของจอของ iPhone ยังเป็นขนาด 3.5 นิ้วทั้งหมด มีการคาดหวังและลือกันว่า Apple น่าจะมีการเปลี่ยนจอภาพให้มีขนาด 4 นิ้วใน iPhone รุ่นที่ 6 (แต่อาจจะชื่อ iPhone 5 งงมั้ย) แต่อาจจะเป็นการเพิ่มขนาดของจอในแนวตั้งแทนที่จะเป็นแนวกว้าง (ดูรูปประกอบ) สิ่งที่จะได้สำหรับจอ 4 นิ้วก็เช่น พื้นที่สำหรับแสดง icon ได้เพิ่มขึ้นอีก 1 แถว, ดูหนังหรือเล่นเกมส์ในแนวนอนได้มุมมองภาพที่กว้างขึ้น เป็นต้น via: Macrumors.com , เสริมด้วยข่าวลือที่ว่า Steve Jobs ได้ออกแบบ iPhone 5 ที่มีจอใหญ่ขึ้นไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต -> 9to5mac.com
  • เค้าลือกันว่า iPhone 5 ตัวเครื่องจะใช้วัสดุ Liquid Metal: และย้อนไปที่ข่าวลือที่ผมโพสไปก่อนหน้านี้ที่ว่า ตัวเครื่องจะผลิตขึ้นจาก Liquid Metal

สุดท้ายเราก็ต้องมาลุ้นกันดูว่า ช่วงระหว่างงาน WWDC 2012 Apple จะมีการเปิดตัว iPhone 5 รุ่นใหม่หรือไม่ (iPhone รุ่นแรกถึง iPhone 4 เปิดตัวในงาน WWDC ในช่วงเดือนมิถุนายน) หรืออาจจะต้องรอไปถึงเดือนตุลาคมเหมือนเมื่อครั้งเปิดตัว iPhone 4S เมื่อปีที่แล้ว* รอลุ้นกันอีกนิดเดียวเองครับ

* Apple มักจะมีรอบการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ที่ตรงกับรอบการเปิดตัวในปีที่ผ่านมาเสมอ

ภาพจำลอง iPhone 5 ขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว ไม่ใช่ภาพจริง

 

Today’s 9 years ago, Jobs unveiled iTunes Music Store

วันนี้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว หรือเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2003. Steve Jobs ได้เปิดตัว iTunes Music Store (ชื่อเมื่อตอนนั้น ภายหลังเปลี่ยนเป็น iTunes Store. ผู้เขียน) ซึ่งนับจากวันนั้นมา ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ Steve Jobs และ Apple ได้เปลี่ยนวิธีการดาวน์โหลดเพลงของผู้คนทั่วโลกไปตลอดกาล

ชมวีดีโอเมื่อวันนั้นกันครับ

 

การสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ยังนึกไม่ออกว่าถ้าไม่ใช่ Apple และ Steve Jobs จะมีคนทำได้เช่นนี้อีกหรือไม่?……

 

Steve Jobs, We will missed you

Big thing tonight?

คืนนี้ในเวลาตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป ตามเวลาของประเทศไทย Steve Jobs จะขึ้นกล่าวเปิดงาน (Keynotes) WWDC 2011 ซึ่งจนถึงตอนนี้ทาง Apple ก็ไม่ได้ออกมาบอกว่าจะมีการถ่ายทอดสด นั่นก็หมายความว่าเราจะต้องติดตามข่าวของงานตามเว็บเกี่ยวกับ Mac ดัง ๆ เช่น tuaw.com, macrumors.com, engadget.com และอีกมาก

มาดูกันว่าจะมีการนำเสนอ iOS 5 ตัวใหม่ที่มีความสามารถโดดเด่นเพียงใด และยังรวมไปถึงการเปิดตัว Mac OX 10.7 Lion อย่างเป็นทางการ

ท้ายที่สุดผมก็ยังหวังจะให้มี  “There’s one more thing” ที่ผมเดาเองว่า Steve Jobs จะเผยโฉม iPhone 4S ในตอนนาทีท้าย ๆ ของ Keynotes ของเค้า มารอดูนะครับว่าผมจะเดาได้ถูกหรือไม่ ?

จะมีใครอยู่เฝ้าเว็บช่วงค่อนคืนไปแล้วบ้างครับ ส่งเสียงด้วย….