Recent Posts

เมื่อผมสมัครงานกับบริษัทขายผลไม้

ช่วงเดือน กรกฎาคม ปี 2013 ตอนนั้นผมเดินทางไปปักกิ่ง เพื่อช่วยดำเนินการย้ายสำนักงานไปที่ใหม่ ผมได้รับการติดต่อจากฝ่ายบุคคลของบริษัทขายผลไม้จากคูเปอร์ติโน่ ประจำสาขาสิงคโปร์ เพื่อขอสัมภาษณ์งานในตำแหน่งที่ผมสมัครเอาไว้ก่อนหน้านั้น

สัมภาษณ์รอบแรก

ผมแจ้งไปว่า ผมกำลังเดินทางมาทำงานที่ปักกิ่งนะ เค้าก็ตอบกลับมาว่า จะสัมภาษณ์ด้วย FaceTime ซึ่งที่เมืองจีนน่าจะใช้งานได้ไม่มีปัญหา ผมก็เลยตอบตกลงนัดหมายวันและเวลากัน พอถึงวันและเวลาที่นัดหมาย ผมก็กลับไปที่โรงแรมก่อนเวลาเล็กน้อย เพื่อเตรียมเชื่อมต่อ iPad เข้า Internet ให้เรียบร้อยแล้ว และทดสอบการใช้ FaceTime กับครอบครัว 1 รอบ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

บรรยากาศการสัมภาษณ์เป็นไปแบบสบาย ๆ เป็นการพูดคุยกับทางฝายบุคคล ที่เป็นผู้หญิงชาวสิงคโปร์ เน้นการสอบถามถืงประวัติการทำงานของผมโดยภาพรวม พูดคุยถึงประสบการณ์ในการทำงาน และสอบถามถึงงานที่จะต้องทำที่บริษัทขายผลไม้นี้ เพื่อดูว่าเนื้องานนั้นจะตรงกับประสบการณ์ของผมหรือไม่ ซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี

ผมสัมภาษณ์ไป 44 นาที ด้วย FaceTime ทั้งวีดีโอและเสียงแบบไม่ติดขัดเลย ทำให้พบว่า Apple นั้นออกแบบระบบ FaceTime ได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ เวลา 44 นาทีนั้น มีการรับและส่งขัอมูลเพียง 157 MB เท่านั้น นี่คือความสามารถของการออกแบบระบบการสื่อสารที่ทำให้โลกเล็กลงมาก อยู่ที่ไหน ๆ ก็สามารถติดต่อกันได้ทั้งภาพและเสียง เพียงแค่เข้าถึง Internet ได้เท่านั้น

 

 

นอกเรื่อง  เพราะความสะดวกและความสามารถของ FaceTime นี้เอง ทำให้ผมไม่ว่าจะเดินทางไปประเทศไหน จะพยายามหา SIM 3G ของท้องถิ่นเอาไว้เสมอ เพื่อการติดต่อกับทางครอบครัวเป็นหลัก ไปเที่ยวที่ไหน ๆ ก็สามารถเอาภาพที่ตาเราเห็น ให้คนทางบ้านเห็นได้พร้อม ๆ กัน ประหนึ่งว่าเดินทางมาด้วยกัน ถ้าไม่มีคนอย่าง Steve Jobs เราก็อาจจะไม่ได้ระบบการติดต่อสื่อสารแบบนี้ก็เป็นได้

 

 

การสัมภาษณ์รอบสอง

ประมาณเดือนตุลาคม ผมได้รับการติดต่อกลับมาจากฝ่ายบุคคลคนเดิม แจ้งว่าให้เข้าไปที่สำนักงานบริษัทขายผลไม้ สาขาประเทศไทย เพื่อทำการสัมภาษณ์รอบที่ 2 และแจ้งให้ผมเตรียมทำ presentation อะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับสินค้าของบริษัทขายผลไม้นี้ ผมก็เลยทำไปเรื่องที่เกี่ยวกับ iOS

เค้ายังแจ้งอีกว่า จะมีเจ้าหน้าที่ของทางเค้าประมาณ 10 คนในห้องที่จะสัมภาษณ์ผม ซึ่งมีทั้งชาวต่างชาติและคนไทย ผมก็สบาย ๆ เพราะว่าเคยโดนรุมสัมภาษณ์แบบนี้มาหลายครั้งแล้ว กลัวซะที่ไหน  นอกจากนี้แล้ว ยังระบุอีกว่าการแต่งตัวให้เป็นแบบ Business Casual ผมก็เลยไปถามเพื่อนผมที่ชื่อ Google ดูว่าการแต่งกายแบบ Business Casual นั้นเป็นแบบไหน คำตอบที่ได้ก็คือ ใส่เสื้อยืดได้ การเกงยีนส์ก็ได้ แต่ว่าอย่าให้มันฉูดฉาดและบ้าระห่ำจนเกินไป ซึ่งก็คือวัฒนธรรมแบบฝรั่งทั่วไป ที่ผมก็แต่งตัวแบบนี้ทำงานอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ใส่ชุดทำงานทุกวันนั่นแหล่ะไปสัมภาษณ์ได้เลย ^__^

เมื่อถึงวันสัมภาษณ์ ผมเดินทางไปถึงก่อนเวลาเกือบครึ่่งชั่วโมง ซึ่งเป็นมารยาทมาตรฐานที่เราควรจะไปถึงสถานที่สัมภาษณ์ก่อนเวลานัดสักหน่อย พอไปถึงแล้ว สักพักหนึ่งฝ่ายบุคคลท่านเดิมก็ส่ง iMessage* ถามผมว่ามาถึงหรือยัง ผมก็ตอบไปว่าอยู่ที่ห้องโถงของบริษัทของเค้าแล้ว เค้าตอบกลับมาว่าให้รอสักครู่ กำลังสัมภาษณ์อีกคนนึงอยู่

ผมรอไม่นานนักก็ถูกเชิญให้เข้าห้องสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นไปตามที่ได้รับการบอกกล่าวเอาไว้ มีคนอยู่ในห้องนั้น 10 คน รอเชือดผมอยู่ เป็นคนไทย 3 ที่เหลือคือฝรั่งชาวอเมริกันทั้งหมด พอทักทายกันนิดหน่อย เค้าก็บอกให้ผมเริ่มทำการ present ตามที่เตรียมมา และเค้าเสริมอีกว่า เค้าอาจจะให้ผมหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าเค้าคิดว่าเพียงพอแล้ว และจะต่อด้วยการพูดคุยกัน แล้วผมก็เริ่มร่ายมนต์ presentation ของผม ระหว่างนั้นก็มีคำถามบ้างเล็กน้อย หลาย ๆ เรื่องเป็นเรื่องที่ผมเอามาเล่าใหม่ เช่น เรื่องวันและเวลาที่ iPhone เริ่มเข้ามาขายในเมืองไทยครั้งแรก ผมเห็นว่าเจ้าหน้าที่คนไทยบางคนนั่งนึกตามและพยักหน้าตามไปด้วย แสดงว่าเค้าจำได้เหมือนกัน  ^_^ ผม present ไปได้ประมาณ 10 นาที เค้าก็บอกว่าพอแล้ว

และก็เริ่มการคุยกัน ผมโดนคน 6 คนรุมถามเป็นภาษาอังกฤษในเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวผม ตำแหน่งงานที่เค้าจะรับ มุมมองและความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวผลไม้ชนิดนี้ ถามถึงเรื่องร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายผลไม้ของเค้า และอีกมาก ใช้เวลาไปอีกประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้ สุดท้ายก็จบและคุณฝ่ายบุคคลก็เดินออกมาส่งถึงหน้าประตูออฟฟิศและบอกว่าจะติดต่อกลับมา

* นี่เป็นอีกครั้งที่เค้าใช้ความสามารถและระบบพื้นฐานที่ Apple ออกแบบเอาไว้อย่างดี เอามาใช้ในการสื่อสารกับผมได้ฟรี ๆ ไม่ต้องเสียค่าส่ง SMS ทางไกลระหว่างประเทศ

 

สรุป

สองสัปดาห์ต่อมา ผมได้รับอีเมล์จากฝ่ายบุคคลคนเดิม บอกว่าผมไม่ผ่านการสัมภาษณ์รอบ 2 ที่กรุงเทพฯ แต่ไม่ได้แจ้งเหตุผลที่ชัดเจน และบอกว่าถ้าผมมีข้อสงสัยอะไรให้ถามได้ ผมก็ถามไปเหมือนกัน แต่ไม่ได้รับการตอบกลับมา ซึ่งก็ไม่เป็นไร

การที่ผมไม่ได้งานกับบริษัทขายผลไม้นี้ ถ้าถามว่าเสียใจหรือไม่? ผมตอบได้เลยว่า ไม่เสียใจ เพราะว่าการสัมภาษณ์งานก็เป็นแบบนี้ อาจจะมีผิดหวังบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมมีความรู้สึกเสียดายมากกว่า เพราะอยากไปเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทขายผลไม้นี้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร เค้าจะยังมีตำแหน่งต่าง ๆ เปิดขึ้นมาอีกแน่นอน เอาไว้สมัครใหม่ในวันหน้า และสุดท้าย ผมไม่ได้งานกับบริษัทขายผลไม้นี้ก็ดีนะ ไม่งั้นผมก็คงไม่ได้ทำงานในตำแหน่งที่ทำอยู่ตอนนี้ ^__^

 

ผมเขียนเล่าซะยืดยาว ขอขอบคุณที่อ่านกันจนจบ และคุณ ๆ อ่านแล้วไม่รู้เลยใช่มั้ยว่าบริษัทผลไม้นี้คือบริษัทอะไร? ^______________^ เพื่อน ๆ ท่านใดมีความเห็นอะไรที่อยากจะแบ่งปัน ก็เมล์มาคุยกันได้นะครับที่ iamsk@outlook.com

 

สรุปข่าว WWDC 2012: iOS 6

ผ่านไปแล้วสำหรับการเปิดงาน World Wide Developer Conference 2012 ที่ Apple จัดไปเมื่อเวลาหลังเที่ยงคืนของคืนวันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่ง Apple ก็เปิดตัว Macbook Air และ Macbook Pro รุ่นใหม่ ซึ่งเนื้อหาไม่อยู่ในส่วนที่เว็บเราครอบคลุม จึงขอให้ไปติดตามอ่านได้จากเว็บ Mac อันดับหนึ่งของประเทศไทยที่ www.freemac.net นะครับ

ในงานเดียวกันนี้ ไม่มีการเปิดตัวหรือเผยข้อมูลของ iPhone รุ่นใหม่อย่างที่คาดการณ์กันเอาไว้ แต่มีการเปิดเผยให้เห็นความสามารถใหม่ ๆ ของ iOS 6 ที่เช่นเคยที่ Apple จะบอกว่า มีความสามารถใหม่ถึง 200 อย่างด้วยกัน แต่นำมาเสนอให้ชมเฉพาะความสามารถที่โดดเด่นเท่านั้น มาว่ากันทีละตัวเลยครับ

Siri กับความสามารถที่สูงขึ้น
ระบบผู้ช่วยเหลือส่วนตัวอย่าง Siri ที่เปิดตัวมาเพียง 8 เดือน มีการปรับปรุงอีกครั้ง ใน iOS 6 จะเพิ่มให้สามารถทำงานกับ new iPad ได้ สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกีฬา (ตรวจผลกีฬาได้ทันที่การแข่งขันจบ), หาข้อมูลร้านอาหารและจองร้านอาหารได้ทันทีจากใน Siri, ค้นหาโรงหนังและข้อมูลของหนัง เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว Siri ยังฝังตัวเข้ากับการทำงานของตัว iOS เต็มรูปแบบยิ่งขึ้น สามารถทำงานร่วมกับความสามารถอื่น ๆ เช่น สั่งให้ Post ข้อความขึ้น Facebook (ที่เกี่ยวข้องกับการรวม Facebook เข้าไว้กับ iOS 6) นอกจากนี้แล้ว Siri ก็รองรับกับภาษาต่าง ๆ มากขึ้น (จีนและเกาหลี) แต่ก็ยังไม่มีภาษาไทยอยู่เหมือนเดิม สุดท้าย Siri สามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นได้ด้วย เราคงต้องนำมาทดสอบดูว่าจะสามารถค้นหาข้อมูลของเมืองไทยได้หรือไม่


ผนวก Facebook เข้ากับ iOS 6

เมื่อปีที่แล้ว Apple ได้ผนวก Twitter เข้าไว้กับ iOS 5 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถ Tweet ข้อความ, รูปภาพ, ลิงค์, หรืออื่น ๆ ขึ้น Twitter ได้อย่างสะดวก มาปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ผู้ใช้จะสามารถแชร์หรือโพส Status ของตัวเองขึ้น Facebook ได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงจะผนวกวันเกิดของเพื่อน ๆ บน Facebook เข้ากับ Calendar ให้โดยอัตโนมัติ (Apple ฆ่าเหล่าโปรแกรมเสริมสำหรับ Sync วันเกิดจาก Facebook เรียบร้อย)


ความสามารถใหม่ของ Phone
สำหรับความสามารถด้านโทรศัพท์ ได้มีการเพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เช่น สามารถตอบข้อความกลับไปยังผู้ที่โทรศัพท์เข้ามาจากหน้าจอโทรศัพท์โดยตรง (ไม่ต้องเข้าโปรแกรม iMessage) ซึ่งสามารถเลือกข้อความสั้น ๆ ที่กำหนดเอาไว้ล่วงหน้า แล้วส่งข้อความนั้น ๆ กลับอย่างรวดเร็วในเวลาที่ไม่สะดวกที่จะรับสาย เช่น “กำลังประชุม เดี๋ยวจะติดต่อกลับไป” เป็นต้น รวมไปถึงความสามารถใหม่อย่าง “Do Not Disturb” ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถปิดการทำงานของโทรศัพท์ได้ในช่วงเวลาที่กำหนด ในระหว่างประชุม หรือระหว่างที่พักผ่อนตอนกลางคืน แต่จะสามารถเลือกที่รับสายจากบางสายโดยเฉพาะเท่านั้นได้ น่าสนใจมาก ๆ สำหรับ “Do Not Disturb”


FaceTime และ Apple ID ผนวกเข้ากับเบอร์โทรศัพท์
สำหรับผู้ใช้ FaceTime มีการร้องขอกันมามากมายว่าอยากจะใช้งาน FaceTime ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำกัดอยู่แค่เพียงการใช้งานร่วมกับ WiFi เท่านั้น ด้วย iOS 6 คุณทำได้แล้ว FaceTime บน iOS 6 จะสามารถทำงานบนเครือข่ายมือถือได้ด้วย ผ่านระบบ 3G* และนอกจากนี้แล้ว Apple ยังผนวก Apple ID และเบอร์โทรศัพท์ให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งถ้ามีคน FaceTime (หรือ iMessage) เข้ามาหาคุณ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะรับบน iPhone หรือบนเครื่อง Mac หรือ iPad ก็ได้
*จากนี้ไปคุณผู้ชายก็คงจะหนีเที่ยวได้ยากขึ้น เพราะ FaceTime ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำกัดเฉพาะกับ WiFi เท่านั้น


Mobile Safari
ได้มีการปรับปรุง Mobile Safari บน iOS ให้มีความสามารถที่เกี่ยวข้องกับ iCloud ด้วยความสามารถที่เรียกว่า iCloud Tabs ซึ่งจะเป็นการ Sync ข้อมูลการใช้งาน Safari บนเครื่อง Mac เข้าสู่ iCloud หมายความว่าคุณจะสามารถเปิดเว็บที่เปิดค้างเอาไว้บนเครื่อง Mac ด้วย iPad, iPhone ได้ทันที และ Mobile Safari ยังรองรับการแสดงผลแบบเต็มจอภาพ เพื่อให้ได้พื้นที่การอ่านและดูข้อมูลมากยิ่งขึ้น (ทำได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน)


แชร์รูปภาพจาก  Photo Streams
ความสามารถ Photo Streams นั้นใน iOS 5 เป็นเพียงระบบที่ให้ผู้ใช้ Save รูปภาพที่ถ่ายขึ้น iCloud แบบอัตโนมัติ เพื่อรอการนำเก็บเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ผ่าน iCloud แต่ใน iOS 6 นั้น ผู้ใช้สามารถแชร์รูปใน Photo Streams ให้กับเพื่อนได้ร่วมชื่นชมด้วยได้ ซึ่งเพื่อนของคุณจะได้รับข้อความแจ้ง (Notifications) ให้รู้ว่าคุณได้แชร์รูปให้ดู ซึ่งคุณและเพื่อนของคุณจะสามารถคอมเมนต์รูปภาพนั้น ๆ ได้เหมือนกับที่คุณทำเวลาใช้งาน Facebook นั่นเอง


Mobile Mail
โปรแกรม Mobile Mail ใน iOS 6 เพิ่มความสามารถใหม่คล้าย ๆ กับ OS X 10.8 Mountain Lion ที่สามารถกำหนดอีเมล์ของบุคคลคนสำคัญของคุณ (VIP) ซึ่งคุณจะได้รับข้อความเตือนแบบพิเศษเวลาที่ได้รับอีเมล์จากบุคคคลคนสำคัญคนนี้ของคุณ (จะมีรูปดาวต่อจากชื่อหรืออีเมล์) นอกจากนี้แล้วผู้ใช้จะยังสามารถส่งรูปภาพหรือวีดีโอได้ง่ายยิ่งขึ้น และยังสามารถสั่งให้เช็คเมล์ใหม่ได้ด้วยการลากนิ้วลงมาจากด้านบนของจอภาพ (pull-to-refresh)


Passbook
นี่คือความสามรถใหม่ที่เพิ่งจะเพิ่มเข้ามาใน iOS 6 ซึ่งเป็นโปรแกรมที่รวบรวมข้อมูลของบัตรสมาชิกต่าง ๆ ของคุณเอาไว้ในที่เดียว ยังรวมไปถึงบัตรขึ้นเครื่องบิน (Boarding Pass), ตั๋วหนัง และอีกมาก ซึ่ง Passbook ยังได้ผนวกการทำงานร่วมกับตำแหน่งที่ตั้ง และการเตือนความจำ (Location, Reminder) ด้วย เช่น เมื่อคุณเดินไปใกล้ร้าน Starbucks สาขาโปรด ก็ให้ส่งเสียงเตือนขึ้นมา พร้อมกับแสดงรายละเอียดของบัตรสมาชิก Starbucks ขึ้นมาบนหน้าจอ และยังรวมไปถึงบริการเกี่ยวกับการเดินทางด้วยเครื่องบิน ที่จะเตือนเวลาที่ถึงเวลาขึ้นเครื่องบิน พร้อมแจ้งข้อมูลของประตู (Gates) สำหรับเที่ยวบินนั้น ๆ ด้วย


Guided Access

อีกหนึ่งความสามารถใหม่ใน iOS 6 เป็นระบบที่เราสามารถหนดพื้นที่บนจอภาพได้ว่าพื้นที่ส่วนใดที่สามารถจะให้ผู้ใช้เลือกแตะได้ Apple ได้ยกตัวอย่างการใช้งานกับเด็กออทิสติก (Autistic) ซึ่งเราสามารถกำหนดให้เค้าสามารถใช้หรือแตะพื้นที่ใดได้บ้างบนหน้าจอของโปรแกรม หรืออาจจะทำมาประยุกต์ใช้สำหรับเครื่องที่ใช้เป็นเครื่องโชว์สินค้า ที่จะจำกัดพื้นที่ที่ผู้ดูข้อมูล ไม่สามารถแตะปุ่มหรือส่วนของหน้าจอได้มากกว่าที่เรากำหนดเอาไว้ได้


Maps พร้อมกับระบบนำทาง

นี่คือการปรับปรุงครั้งใหญ่นับตั้งแต่ iOS (หรือ iPhone OS) เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งที่ผ่านมา Maps ที่ใช้ใน iOS นั้นเป็นส่วนหนึงของ Google Maps ที่ปรับปรุงมาให้ใช้ได้บน iOS แต่มันเป็นแผนที่เราสามารถใชได้เพียงการอ้างอิง หรือค้นหาสถานที่ได้เท่านั้น สามารถนำทางได้แต่จะไม่มีการบอกเส้นทางด้วยเสียงหรือแนะนำเส้นทางได้เหมือนกับเครื่อง GPS จริง ๆ  แต่ด้วยแผนที่ตัวใหม่ของ iOS 6 สามารถทำงานได้เหมือนกับการมีเครื่อง GPS นำทางได้จริง ๆ ซึ่งสามารถบอกเส้นทางให้เลี้ยวหรือไปตามเส้นทางที่ค้นหามาได้จากดาวเทียม GPS (turn-by-turn navigation) ซึ่งจะมีเสียงพูดนำทางตลอดเวลาเหมือนเครื่อง GPS และแน่นอนเสียงที่พูดนั้นก็คือเสียงของ Siri นอกจากนี้แล้วแผนที่ชุดนี้ยังสามารถแสดงผลแบบ 3 มิติ (3D) ได้ด้วย รวมไปถึงในมุมมองแบบ “Flyover” คล้าย ๆ กับว่าเรากำลังบินผ่านสถานที่นั้น ๆ ในแผนที่จริง ๆ ที่เราสามารถหมุนไปในด้านต่าง ๆ ของแผนที่, ซูมเข้าและออกได้ตามต้องการ นี่คือการประทะกันระหว่าง Apple และ Google ที่เพิ่งจะเปิดตัวแผนที่ชุดใหม่ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งมีมุมมองแบบ 3 มิติเช่นเดียวกัน


Lost Mode
นี่คือความสามารถเพิ่มขึ้นของ Find my iPhone ด้วย Lost Mode ผู้ใช้สามารถสั่งให้ส่งหมายเลขโทรศัพท์ไปยังเครื่อง iPhone ที่หายไป เพื่อให้คนที่เก็บได้ สามารถแตะที่เบอร์นั้น แล้วโทรศัพท์กลับมาที่เบอร์ฯ ที่คุณส่งไป (ในกรณีที่เจอคนดี ๆ ที่ไม่ปิดเครื่องหนีตั้งแต่เก็บได้ ^_^)


รองรับกับภาษาจีนเต็มรูปแบบ
นี่อาจจะเป็นการเอาใจกับผู้ใช้ชาวจีน เพื่อหวังผลเรื่องของยอดการจำหน่าย iDevices นั่นเอง ใน iOS 6 จะรองรับภาษาจีนเต็มรูปแบบ ผู้ใช้สามารถเลือกบริการค้นหาข้อมูล (Search Engine) ท้องถิ่นได้ เช่น Weibo, Tudou, หรือ YouTube ของประเทศจีนอย่าง Youku ได้

 

นี่คือความสามารถใหม่ ๆ ของ iOS 6 ที่ Apple เปิดตัวไปในงาน WWDC 2012 ซึ่งเหล่านักพัฒนาโปรแกรมสำหรับ iOS จะได้รับ iOS 6 Beta 1 ไปทดลองใช้งานกันแล้ววันนี้ ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็จะต้องรอให้มีการเปิดตัว iOS 6 อย่างเป็นทางการในช่วงระหว่างเดือนกันยายน – ตุลาคมปีนี้ ซึ่ง iOS 6 จะรองรับกับ iPhone 3GS จนถึง iPhone รุ่นปัจจุบัน, iPad 2 , iPad 3 และ iPod Touch รุ่นที่ 4 เท่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติม: www.apple.com/ios/ios6

 

Apple Posts New FaceTime, AirPlay Video Ads

ผมชอบคำโปรยนะครับ “Just one more thing that make iPhone, an iPhone” เชิญชมเลย

 

 

FaceTime over 3G in iOS 5?, may be.

9to5mac.com ได้ทดลอง iOS 5 Beta 1 แล้วพบว่าขณะที่เรียกใช้งาน FaceTime นั้น หน้าจอได้แสดงข้อความเตือนว่าให้เปิด Data ผ่านระบบเครือข่ายมือถือ (Cellular) หรือ WiFi

ซึ่งนี่ถือว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าในอนาคตด้วย iOS 5 เราจะสามารถใช้ FaceTime ผ่าน 3G ได้?? สิ่งที่ Apple จะต้องทำเพื่อให้สามารถใช้ FaceTime บน 3G ได้นั้น Apple ก็คงจะต้องคุยและตกลงกับผู้ให้บริการมือถือเสียก่อน ซึ่งแน่นอนก็ต้องเริ่มต้นจากในอเมริกาอย่าง at&t และ Verizon และประเทศอื่น ๆ ก็คงจะตามมาต่อไป…

ในตอนนี้ก็รอดูการยืนยันจากทาง Apple ต่อไปครับ

via: 9to5mac.com

ยำข่าว 25 เมษายน 2554

ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาผมยุ่งมาก ๆ กับงานประจำ ทั้งการเดินทางไปต่างประเทศด้วย ทำให้หมดพลังงานและขี้เกียจมา update เว็บไปซะเฉย ๆ ทั้ง ๆ ที่ช่วงที่ผ่าน ๆ มามีข่าวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ก็เลยเอามายำ ๆ รวมกันเหมือนเช่นเคย

  • Apple update iTunes 10.2.2 เพื่อแก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัย
  • Apple update iOS 4.3.2 ซึ่งหลัก ๆ ก็แก้ปัญหาของ FaceTime และปรับปรุงเรื่อง Security
  • Apple ส่งเครื่องต้นแบบของ iPhone 4S ทีใช้ CPU A5 ให้นักพัฒนา(ที่ได้รับเลือก)ทำการทดสอบ
  • Apple จะวางจำหน่าย iPhone 4S/5 ในเดือนกันยายน ภายหลังที่อาจจะมีการเปิดตัวในช่วงงาน WWDC 6-10 มิถุนายนนี้
  • iPhone 4 สีขาวจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ(เสียที) ในวันที่ 27 เมษายน 2554 ซึ่งในบ้านเราทาง iStudio ก็เปิดรับจองแล้ว
  • ข่าวลือที่ว่า iPhone 4S/5 จะมีหน้าจอขนาด 3.7″ (iPhone 4 และก่อนหน้ามีหน้าจอ 3.5″) , เปลี่ยนลักษณะของปุ่ม Home เพิ่มความสามารถของ gesture ในการควบคุมเครื่อง และอาจจะมีการออกแบบที่คล้ายรูปทรงของ Macbook Air  **แต่ผมบอกได้เลยว่าจะไม่มีการออกแบบให้เป็นรูปทรงตามข่าวลือนี้
  • วีดีโอหลุดจากเวียตนามที่เป็น iPhone 4 ความจุ 64GB ซึ่งใช้ iOS รุ่นใหม่ที่อาจจะเป็น iOS 5 มีความสามรถใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเช่น การควบคุม Multitasking แบบใหม่คล้าย ๆ Expose ของ Mac OS X และวิธีการจัด Folder ของ App แบบใหม่ด้วย

New iPhone 4 Ad: FaceTime with Santa Clause!

ตามหัวข้อเลยครับ โฆษณาชุดใหม่ของ iPhone 4 น่ารักมาก ๆ เมื่อลูกได้พบกับ Santa Clause ผ่าน FaceTime ลองชมกันครับ

via: www.apple.com/iphone

FTFun! has come to official app

บริการเสริมสำหรับ FaceTime บนเว็บ FTFun.com ที่ผมแนะนำไปเมื่อวันก่อน ๆ ตอนนั้นยังเป็นแค่บริการบนเว็บ ตอนนี้ได้ออกมาเป็นโปรแกรมสำหรับ iOS แล้ว ซึ่งสามารถโหลดได้ฟรีจาก App Store กันแล้ววันนี้

Download: FTFun!

facelette – chat roulette for FaceTime

คราวก่อนผมแนะนำบริการ ftfun ที่จะช่วยให้เราหาเพื่อน ๆ ที่ใช้ FaceTime จากที่ต่าง ๆ ได้ทั่วโลกไปแล้ว คราวนี้ผมขอแนะนำบริการใหม่สำหรับ FaceTime อีก 1 บริการ “facelette” ซึ่งเค้าใช้คำโปรยว่ามันคือ Chat Roulette สำหรับ FaceTime

วิธีการทำงานก็คล้าย ๆ ก็จะเป็นการสุ่มผู้ใช้ FaceTime คนอื่น ๆ ที่เข้ามาใช้บริการของ facelette ขึ้นมาซึ่งเราก็จะสามารถเริ่มต้น FaceTime กับเค้าได้ทันที ทั้งจาก FaceTime สำหรับ Mac หรือ FaceTime บน iPhone 4/iPod Touch 4th Generation. โดยเราจะไม่มีโอกาสรู้เลยว่าอีกฝั่งหนึ่งเป็นใคร หรืออยู่ที่ใดบนโลกใบนี้

ถ้าคุณจะใช้งานบริการของ facelette นี้ คุณก็เพียงใส่ Apple ID ที่คุณใช้กับ FaceTime ของคุณ (หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ) แล้วกดปุ่ม “FaceTime me!” ระบบของ facelette ก็จะไปสุ่มชื่อของคนที่เข้ามาใช้บริการนี้ แล้วแสดง Apple ID (หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ) ออกมาบนหน้าจอ ขั้นตอนต่อไปคุณก็ต้องไปเพิ่มชื่อเข้าไปใน Contact ของ iPhone 4 หรือใน AddressBook (กรณีที่ใช้ FaceTime สำหรับ Mac) จากนั้นคุณก็จะได้คุยกับคนแปลกหน้าในทันที

คำเตือน การเปิดเผยตัวตนของคุณบน facelette จะคล้ายกับการเปิดบ้านของคุณให้กับแปลกหน้าเข้ามาเที่ยวเล่น ซึ่งเค้าก็จะสามารถกลับมาเยี่ยมคุณอีกเมื่อใดก็ได้ (เพราะเค้ารู้แล้วว่าบ้านคุณอยู่ที่ไหน) ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้ความเป็นส่วนตัวของคุณโดนคุกคาม ก็ไม่ควรที่จะใช้บริการนี้นะครับ

Link: facelette.com

FaceTime for Mac OS – พร้อมข้อมูลเชิงเทคนิค

ทดสอบ FaceTime กับลูกสาว

Apple เปิดตัว FaceTime สำหรับ Mac OS แล้ว ซึ่งเป็นการเปิดโลกใหม่แห่งการสื่อสาร ที่เป็นการเขย่าวงการสื่อสารและเทคโนโลยีแบบที่คู่แข่งต้องหันกลับมาและคิดใหม่อีก(หลาย ๆ)ครั้ง จากเดิมที่ FaceTime นั้น Apple ออกแบบและพัฒนามาให้ใช้อยู่บน iPhone 4 และ iPod Touch รุ่นที่ 4 เท่านั้น มาถึงตอนนี้ Apple ได้เปิดตัว FaceTime รุ่น Beta สำหรับ Mac OS จึงทำให้ผู้ใช้เครื่อง Mac สามารถ FaceTime กับ iPhone 4 และ iPod Touch รุ่นที่ 4 ได้

สิ่งที่ผู้ใช้ต้องทำก็คือ ให้ Sign-in เข้าใช้งาน FaceTime บน Mac ด้วย Apple ID (ที่อยู่ในรูปแบบของอีเมล์) ที่ใช้กับ App Store หรือถ้ายังไม่มี Apple ID ก็สามารถสมัครใหม่ได้ทันทีจากหน้าจอ FaceTime ซึ่งเมื่อสมัครแล้ว Apple จะส่งเมล์มาให้คลิกยืนยัน (Verify) ตัวตน แล้วจึงจะใช้งานได้

อ่านต่อ » FaceTime for Mac OS – พร้อมข้อมูลเชิงเทคนิค

Yahoo Messenger to allow iPhone to Computer Video Call

นอกจาก Facetime ที่เราจะสามารถทำ Video Call ระหว่าง iPhone 4 ด้วยกัน หรือระหว่าง iPhone 4 กับ iPod Touch 4th Generation แล้ว ก็ยังมีโปรแกรม Tango ที่ให้เราสามารถทำ Video Call ระหว่างเครื่อง iPhone 4, 3GS และข้ามสายพันธ์ไปยัง Android OS ที่ติดตั้งโปรแกรม Tango ไว้เหมือนกัน (คลิกที่ Link Tango เพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Tango)

Video Call ด้วย Tango กับคุณปรัชญา ปิ่นแก้ว

ความร้อนแรงของการทำ Video Call นี้เอง ทำให้ Yahoo Messenger จะลงมาเล่นในเกมส์นี้ด้วย โปรแกรม Yahoo Messenger ที่อยู่ App Store อยู่แล้ว จะมีการ updateversion ใหม่เร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเพิ่มฟังก์ชันการทำ Video Call เช่นเดียวกัน แต่ที่อาจจะเหนือกว่า FaceTime, Tango ก็คือ นอกจากที่จะ Video Call ระหว่าง iPhone ด้วยกันแล้ว จะยังสามารถทำ Video Call ระหว่าง Yahoo Messenger บน iPhone และ Yahoo Messenger บนเครื่อง PC อีกด้วย และแน่นอน สามารถทำ Video Call ผ่าน WiFi หรือ 3G ก็ได้

ใครที่ใช้ Yahoo Messenger Chat ก็เตรียม update กันได้เลย

via: 9to5mac.com

ftfun A FaceTime Community

มาอีกแล้วครับ บริการใหม่ ๆ สำหรับคนใช้ FaceTime ชื่อบริการใหม่นี้อยู่บนเว็บ ftfun.com เป็นชุมชนของคนที่ใช้ FaceTime ที่เพียงแค่สมัครสมาชิก กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา เช่น ชื่อ-นามสกุล, อีเมล์, และที่สำคัญเบอร์โทรศัพท์ที่จะใช้ FaceTime (หรือใส่ Apple ID ที่เป็นอีเมล์ ในกรณีที่ใช้ iPod Touch)

จากนั้นเราก็จะสามารถเข้าไปดูว่าในตอนนี้มีใครที่ใช้ FaceTime บ้าง ซึ่งก็จะเป็นคนที่อยู่ในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ที่เป็นสมาชิกกับเว็บนี้

พอผมสมัครสมาชิกกับเว็บนี้ไม่นาน ผมก็ได้รับ FaceTime Request จากคนแปลกหน้าที่อยู่ที่ Brooklyn, New York (คนที่ผมใช้ลูกศรสีแดงชี้ในรูปข้างบน) เป็นฝรั่งผู้ชายที่เจอชื่อสมาชิกผมในเว็บ ftfun.com ลองใช้งานกันดูนะครับ

คำเตือน การสมัครสมาชิกกับเว็บนี้ อาจจะทำให้คุณขาดความเป็นส่วนตัว เพราะว่าเวลาที่เค้ากด FaceTime จากในเว็บบน iPhone เพื่อเริ่ม FaceTime กับคุณ จะทำให้ปลายทางอีกข้างหนึ่งทราบหมายเลขโทรศัพท์ของคุณด้วย ระวังกันสักนิดนะครับ

via: www.ftfun.com

Tango Video Call Free!!

สำหรับคนที่ใช้ iPhone 4 ก็น่าจะได้ลอง FaceTime กันไปแล้ว และก็คงจะทราบว่า FaceTime นั้นจะเชื่อมต่อกันผ่าน WiFi เท่านั้น ไม่สามารถใช้ผ่าน 3G ได้ (นอกจากว่าจะผ่านอุปกรณ์ 3G ที่แจก WiFi มาให้อีกที)

จุดเล็ก ๆ นี้เองก็เลยมีโปรแกรมที่ Video Call ได้เหมือนกับ FaceTime ชื่อว่า Tango ที่แจกฟรีสำหรับ iOS (และ Android) ผู้ใช้ Tango จะสามารถทำ Video Call กันได้โดยใช้ WiFi หรือ 3G ก็ได้ แทนที่จะใช้บน WiFi อย่างเดียวเหมือนกับ FaceTime


นอกจากนี้แล้ว Tango ยังสามารถทำ Video Call กับโทรศัพท์อื่น ๆ บนระบบปฎิบัติการ Android ได้ เพียงแค่มีโปรแกรม Tango ติดตั้งเอาไว้เหมือนกันเท่านั้นเอง

การใช้ Tango ครั้งแรกก็เพียงแค่ใส่หมายเลขโทรศัพท์, ชื่อและนามสกุล และอีเมล์ของเราลงไป จากนั้นโปรแกรมก็จะไปค้นดูว่าใน Contact ของเรามีใครใช้ Tango บ้าง แล้วก็จะแสดงรายชื่อของคนที่เราสามารถจะทำ Video Call ผ่าน Tango ได้ขึ้นมา เพียงเท่านี้คุณก็พร้อมที่ทำ Video Call แล้ว

ผมได้ทำการทดสอบ Tango แล้วพบว่า
1. เราสามารถสลับหน้าเราและหน้าของคนที่เรา Video Call ด้วยให้เป็นจอใหญ่ได้ ในขณะที่ FaceTime จะกำหนดให้หน้าเราอยู่ในจอเล็ก
2. คุณภาพของวีดีโอด้อยกว่า FaceTime เล็กน้อย ซึ่งก็น่าเกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อของระบบของ Tango เอง
3. ทดสอบบน iPhone 4 สามารถสลับกล้องหน้าและหลังได้เหมือน FaceTime
4. เราจะสามารถทำ Video Call กับมือถือ Android ที่มีและใช้โปรแกรม Tango เหมือนกันได้

แถมท้าย สำหรับท่านที่จะใช้ Tango ใน WiFi ของที่ทำงาน ซึ่งอาจจะมี Firewall ปิดช่องทางสื่อสาร (Port) เพื่อรักษาความปลอดภัย คุณจะต้องเปิดช่องทาง (Port) หมายเลข 6222 และ 3500 – 3510 จึงจะใช้ Tango ในการทำ Video Call ติดต่อกับคนอื่น ๆ ได้ครับ

Download Free -> http://tango.me/

FaceNow for iPhone 4

ตั้งแต่ผมได้ใช้ iPhone 4 วันแรก ก็ได้ FaceTime กับเพื่อน ๆ และพี่ ๆ หลายคนแล้ว ซึ่งเป็นความสามารถอันโดดเด่นของ iPhone 4 จริง ๆ แต่มันก็น่าเบื่อเหมือนกันที่เวลาจะ FaceTime กับใคร ผมก็ต้องไปไล่หาชื่อคนนั้น ๆ จากรายชื่อกว่า 200 คนใน Contacts ทำให้เสียเวลามาก

โปรแกรม FaceNow ช่วยแก้ปัญหานี้หมดเลย ซึ่งเป็นเหมือนกับการเพิ่มรายชื่อของคนที่เราจะ FaceTime เอาไว้ในโปรแกรมนี้ ซึ่งพอเราเข้าโปรแกรมนี้ เราก็จะพบรายชื่อของคนที่มี iPhone 4 และ FaceTime ได้ทันทีที่แตะที่ชื่อ (และเบอร์) ของเค้า

ง่ายและสะดวกโคตร ๆ และที่ดียิ่งกว่า โปรแกรมนี้ฟรีครับ

go get it -> FaceNow

FaceTime กับผู้กำกับคนดัง

วันนี้ได้ร่วมทดสอบ FaceTime กับผู้กำกับคนดัง พี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว (ผู้กำกับ รองต๊ะแล่บแปล๊บ, องค์บาก, ต้มยำกุ้ง, ช๊อคโกแล๊ต ฯลฯ) ก็เลย Capture ภาพมาให้ชมกันเล่น ๆ ครับ (ได้รับอนุญาตจากพี่ปรัชฯ แล้ว)

พี่ปรัชญาอยู่นครสวรรค์ ผมอยู่นนทบุรี ไม่กระตุกเลยแม้แต่นิดเดียว
มา FaceTime กันหน่อยพวกเรา…..