วีธีการที่ถูกต้องในการดูแลแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน

 

วีธีการที่ถูกต้อง ในการดูแลแบตเตอรี่สมาร์ตโฟน (รวมไปถึงโน๊ตบุ๊ค, iPad และทุกอย่างที่มีแบตเตอรี่) เชื่อหรือไม่ว่ามีผู้คนจำนวนมากเข้าใจวิธีการดูแลแบตเตอรี่กันอย่างผิด ๆ มาตลอด เพราะแบตเตอรี่ยุคปัจจุบัน ไม่เหมือนกับแบตเตอรี่มือถือ ตั้งแต่สมัยมือถือออกมาแรก ๆ ที่คุณอาจจะยังจำกันได้ สำหรับประโยคแรก ๆ ที่คนขายจะบอกคุณว่า

 

“ชาร์ตมือถือครั้งแรก 15 ชั่วโมงนะครับ แล้วก็ใช้ให้หมดแล้วค่อยชาร์ตใหม่ให้เต็ม”

 

การทำแบบนี้ไม่ถูกต้องแล้วสำหรับแบตเตอรี่ในยุคปัจจุบัน บทความภาษาอังกฤษข้างล่างคือวิธีการที่ถูกต้องอย่างแท้จริง แต่ถ้าไม่อยากอ่าน สรุปสั้น ๆ ได้ดังนี้

  1. ควรให้แบตเตอรี่มีพลังงานเหลือมากกว่า 50% ขึ้นไป ยิ่งมากยิ่งดี และ
  2. ไม่ควรให้แบตเตอรี่ลดเหลือ 0% บ่อย ๆ เพราะนั่นจะเป็นการทำลายอายุและการทำงานของแบตเตอรี่ ควรจะใช้จนแบตฯ หมด เพียงเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น เพื่อทำการ Calibrate แบตฯ (ปรับความเที่ยงตรงของแบตฯ – ขอขอบคุณพี่ลุงบอย Powerboil สำหรับคำแปลภาษาไทย)

ใครที่ทำแบบตรงข้าม รับรองได้เลยว่าแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพและไม่สามารถชารต์ให้เต็ม 100% ได้ หรืออาจจะพังจนชาร์ตไม่เข้าอีกตอ่ไป มีคนบาดเจ็บมามากต่อมากแล้ว แชร์ ๆ กันไปครับ เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่

เพิ่มเติม: how-to-take-care-of-your-smartphone-battery

 

เทคนิค: การซ่อมสายชาร์ต/หูฟังที่หัก

ปัญหาของลูกค้าของ Apple ที่บ่น ๆ กันมากก็คือ ปัญหาที่สายชาร์ตหรือหูฟัง เปื่อยและขาดง่าย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันคือ feature ที่ Apple อาจจะตั้งใจให้เป็นแบบนี้ ไม่ใช่เพราะอยากจะได้เงินจากลูกค้าที่ต้องซื้อสายใหม่เรื่อย ๆ แต่เป็นเรื่องของการที่มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ง่าย

แต่แน่นอนมันคือปัญหาใหญ่เลย ตามรูปข้างบนจะเห็นว่าสายชาร์ตแบบ Lightning ของผมนั่นเปื่อยและเน่ามาก แม้ว่าจะยังใช้งานได้ดี แต่มันดูไม่งาม พวกเราลูกค้าก็หาวิธีการต่าง ๆ ที่จะซ่อมมัน เพื่อที่จะใช้งานกันต่อได้อีก ซึ่งก็มีหลากหลายวิธีที่ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงได้เห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว วันนี้ผมจะมาแนะนำอีกวิธีนึง

สิ่งที่ต้องมีก็คือ เทปขาว ๆ สำหรับใช้สำหรับพันท่อประปา ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ตามร้านขายอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านทั่วไป

วิธีการก็ไม่ต้องอธิบายกันมากมาย ฉีกเทปพันท่อประปาให้ยาวตามความเหมาะสม แล้วก็เอามาพันสาย Charge หรือสายหูฟังตรงจุดที่มีปัญหา เพียงแค่นี้เราก็สามารถซ่อมให้มันสามารถใช้งานได้ต่อไปอีกสักระยะ ถ้าเทปพันสายเปื่อยหรือสกปรก ก็ลอกออกแล้วพันใหม่ได้เรื่อย

หวังว่าจะมีประโยชน์นะครับ

 

Apple เปิดฟังก์ชัน Two-Step Verification สำหรับผู้ใช้ในไทยแล้ว

ผมได้เขียนข่าวและเทคนิคการเปิดใช้งาน Two-Step Verification เอาไว้เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2556 ซึ่งในตอนนั้น Apple ที่เป็นช่วงเริ่มต้นการใช้งานความสามารถนี้ ทาง Apple เปิดให้ใช้งานได้กับ Apple ID ของประเทศ US, UK, Australia, Ireland และ New Zealand เท่านั้น

มาถึงตอนนี้ ผ่านไปปีกว่า ๆ Apple ได้เปิดให้ผู้ใช้อีก 48 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยได้มีโอกาสใช้งาน Two-Step Verification แล้ว

 

Two-Step Verification เป็นระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ Apple ID ผมขอแนะนำให้ผู้ใช้ทุก ๆ ท่านเปิดใช้งานกันวันนี้เลย เพื่อความปลอดภัยของ Apple ID ของคุณเอง

ถ้าคุณยังไม่รู้หรือไม่เข้าใจว่าจะเปิดใช้งานได้อย่างไร แนะนำให้อ่านบทความที่ผมเขียนเอาไว้เมื่อปีที่แล้วได้ด้วยการคลิกเบา ๆ ที่ลิงค์ต่อไปนี้ Apple เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้ Apple ID

 

 

ซื้อ iPad/iPhone/iPod Touch ใหม่ หาโปรแกรมฟรีไม่เจอ ทำยังไง?

ตามข่าวที่ผมเคยเขียนไปแล้ว สำหรับคุณ ๆ ที่ซื้อเครื่อง iPad/iPhone หรือ iPod Touch ใหม่ ที่มาพร้อมกับ iOS 7 และ/หรือซื้อหลังจากวันที่ 1 กันยายน 2556 (และยังรวมไปถึงเครื่องเคลมใหม่ หลังจากวันที่ 1 กย. ด้วย) จะได้รับโปรแกรม iMovie, iPhoto, Keynote, Pages, Numbers ฟรีทั้งหมด แทนที่จะต้องเสียเงินซื้อราคา $4.99 หรือ $9.99 ต่อตัว

ถ้าคุณได้รับเครื่องมาใหม่แล้ว เมื่อผ่านขั้นตอนการ Activate เครื่องและล๊อคอิน (Log In) เข้า Apple ID เรียบร้อยแล้ว เมื่อเข้าโปรแกรม App Store ครั้งแรก ก็น่าจะพบกับกรอบหน้าจอนี้โผล่ขึ้นมา เพื่อให้โหลดโปรแกรมต่าง ๆ เหล่านี้ได้ฟรี

แต่ก็อาจจะมีบางครั้งที่กรอบหน้าจอข้างบนไม่แสดงขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ซึ่งก็เกิดขึ้นกับผมหลังจากที่ได้รับ iPad mini Retina Display เครื่องใหม่มา ทำให้เกิดความฉงน งงงวย อยู่พักใหญ่ ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะได้โหลดโปรแกรมเหล่านี้ฟรี (จริง ๆ ผมต้องการแค่ Pages และ Numbers เพราะโปรแกรมอื่น ๆ ซื้อมาหมดแล้ว) ลองล๊อคเอาท์ (Log Out) และ ล๊อคอิน (Log In) Apple ID ใหม่อีกหลายครั้งก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง

แต่ในที่สุดผมก็หาทางที่จะเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมเหล่านี้ได้ โดยให้ทำดังนี้

อ่านต่อ » ซื้อ iPad/iPhone/iPod Touch ใหม่ หาโปรแกรมฟรีไม่เจอ ทำยังไง?

Tips: การสลับ iMessage ไปเป็น SMS

สำหรับท่านที่ใช้ iOS ที่ได้มีการเปิดใช้งาน iMessage จะพบว่าสามารถส่งข้อความ, รูปภาพ, และอื่น ๆ ให้กับเพื่อน ๆ ที่ใช้ iOS Devices เหมือนกันได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (ซึ่งจะส่งให้กับคนที่ใช้ Mac OS ได้ด้วย) เพราะเป็นการส่งข้อความผ่าน Data บนระบบ 3G หรือ EDGE/GPRS/WiFi

แต่คุณ ๆ ทราบหรือไม่ว่าถ้าเราไปอยู่ในพื้นที่ที่ระบบ 3G/EDGE/GPRS/WiFi ไม่เอื้ออำนวย เราสามารถที่จะบังคับให้เปลี่ยนการส่ง iMessage เป็นการส่งด้วย SMS แทนได้ (ถ้าใช้ iPhone)

 

วิธีการก็ไม่ยากครับ ถ้าคุณเริ่มสังเกตว่าข้อความที่คุณกำลังส่งด้วย iMessage นั้นใช้เวลานานจนเกินไป คุณก็เพียงแค่ใช้นิ้วกดไปที่ข้อความที่กำลังส่ง จนมีกรอบตัวเลือกแสดงขึ้นมาดังภาพข้างบน ซึ่งจะมีตัวเลือก Copy และ “Send as Text Message” แสดงขึ้นมา คุณก็เพียงเลือกตัวเลือก “Send as Text Message” เพื่อบังคับให้ iOS เปลี่ยนการส่งข้อความแบบ iMessage ให้เป็นการส่งแบบ SMS แทน

ง่าย ๆ เพียงเท่านั้น ตัว iOS (iPhone) ก็จะส่งข้อความนั้น ๆ ออกไปแบบ SMS แทน สังเกตุว่าข้อความเปลี่ยนเป็นสีเขียวพร้อมข้อความกำกับว่า “Send as Text Message” ซึ่งหมายถึงการส่งด้วย SMS

เทคนิคง่าย ๆ แค่นี้ก็ช่วยให้การส่งข้อความได้แบบไม่ขาดตอนครับ ลองใช้งานกันดูนะครับ……

 

** การบังคับการส่งข้อความแบบ iMessage ให้เปลี่ยนเป็นการส่งแบบ SMS นี้จะใช้งานได้กับการส่งข้อความจาก iPhone ไปที่ iPhone จะใช้งานกับ iPod Touch, iPad และ Mac OS X ไม่ได้

 

Apple เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้ Apple ID

ระบบรักษาความปลอดภัยของ Apple ID คือสิ่งที่ผมเคยได้ยินบางคนบ่น ๆ มาบ้าง เพราะว่ามันยุ่งยากที่จะต้องจำ “คำถาม 3 คำถาม” (Security Questions) ที่จะใช้ในการปลดล๊อค Apple ID ในเวลาที่ลืมรหัสผ่านหรือล๊อคอิน (Login) เข้า Apple ID ไม่ได้

ซึ่งแม้ว่าจะมีตัวเลือกคำถาม 3 คำถามแล้ว ระบบรักษาความปลอดภัยของ Apple ID ก็ยังไม่ค่อยจะเข้มแข็งเท่าใดนัก ดังนั้น Apple จึงได้เพิ่มระบบการรักษาความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการเอาระบบการยืนยัน 2 ขั้นตอน ที่เรียกว่า Two-step verification มาใช้งาน (ผมขอเรียกว่า Two-step verification เพื่อความง่ายในการทำความเข้าใจ)

รูปแบบการทำงาน
เมื่อเราได้เปิดระบบ two-step verification มาใช้งาน ซึ่งเราจะต้องทำการยืนยันด้วยรหัส 4 ตัวที่ทาง Apple จะส่งมาให้ผ่านทาง Find my iPhone หรือด้วย SMS เมื่อยืนยันแล้ว ถ้าคุณล๊อคอินเข้าไปที่ Apple ID หรือว่าทำการซื้อ App (เพลง,หนัง) ผ่านทาง App Store/iTune Store คุณจะต้องพิมพ์รหัสผ่าน (Password) และรหัส 4 ตัวที่ทาง Apple ส่งให้ เพื่อทำการยืนยัน

หลังจากขั้นตอนการยืนยันผ่านไปแล้ว การเข้าไปที่ Apple ID หรือซื้อ App ครั้งต่อ ๆ ไปก็จะสามารถทำได้ตามต้องการ ซึ่งถ้าคุณไม่ใส่รหัสผ่านและรหัส 4 ตัวนี้ คุณจะไม่สามารถเข้าทำการใด ๆ กับ Apple ID ของคุณได้

นอกจากนี้แล้วคุณยังจะได้รับรหัสพิเศษอีก 1 ชุดที่จะเป็นอักษร 14 หลัก ซึ่งเรียกว่า Recovery Key ที่คุณควรจะพิมพ์หรือจดบันทึกเอาไว้ในที่ที่ปลอดภัย รหัส 14 หลักนี้ จะเป็นรหัสที่คุณต้องนำมาใช้ในการยืนยันความเป็นเจ้าของ Apple ID ของคุณ ในกรณีที่คุณอาจจะลืมรหัสต่าง ๆ ข้างต้น หรือกรณีที่โดนแฮ๊ก Apple ID ไป

** Recovery Code นี้มีความสำคัญมาก ควรจะเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัยและไม่ควรให้คนอื่นรู้

อ่านต่อ » Apple เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้ Apple ID

Handmade iPhone’s Dock – Version 2

วันก่อนผมได้นำเสนอแท่นวาง iPhone 5 ที่ทำขึ้นจากแกนกระดาษทิชชู่ไปแล้ว พร้อม ๆ กับเชื้อเชิญให้เพื่อน ๆ ร่วมส่งเข้ามาบ้าง ปรากฎว่าไม่มีคนส่งมาเลย ฮา แต่ก็มีทีมงานของเราท่านหนึ่งส่งรูปเข้ามาให้ผม ซึ่งก็คือคุณ Golfzilla โดยมีการออกแบบที่แตกต่างจากที่ผมทำไปวันก่อนครับ

คุณ Golfzilla บอกมาด้วยว่า

“ผมลองทำดูด้วยแกนกระดาษทิชชู่ที่อ่อนกว่า โดยตัดเอาเสี้ยวหนึ่งมาทำเป็นที่รองด้านล่าง”

ซึ่งการออกแบบของคุณ Golfzilla นั้นมีดีตรงที่มีแกนสำหรับรองตัวเครื่องด้านล่าง เพื่อป้องกันเครื่องหล่นสู่พื้นเวลาที่อยู่ใน Dock ครับ ถ้าเพื่อน ๆ ท่านใดอยากจะร่วมสนุกด้วย ก็ส่งการออกแบบ Dock ของคุณมาได้ที่ iamsk@outlook.com นะครับ

Handmade iPhone 5’s Dock

หลาย ๆ วันมานี้งานยุ่ง ๆ และค่อนข้างจะขี้เกียจ ก็เลยไมได้เขียนข่าวให้ได้อ่านกันนะครับ แต่วันนี้เกิดบ้า ๆ ขึ้นมา ก็เลยหยิบแกนกระดาษทิชชู แบบม้วนใหญ่ (แบบที่เห็นกันอยู่ในห้องน้ำห้างสรรพสินค้า) แล้วเอามาดัดแปลงเป็น Dock หรือที่ตั้งสำหรับ iPhone 5 เล่น ๆ ครับ

สิ่งที่ได้นอกจากที่จะได้ที่ตั้ง (Dock) สำหรับ iPhone 5 แล้ว ยังพบว่ามันช่วยให้เสียงที่ออกจาก iPhone 5 สะท้อนในวงของแกนกระดาษและสะท้อนลงพื้น ทำให้เสียงดังขึ้นเล็กน้อยครับ

ลองชมภาพกันดูนะครับ คงจะพอได้ idea ไปพลิกแพลงทำ Dock ใช้งานกันเองบ้าง และถ้าใครทำเองแล้วอยากนำเสนอด้วย ก็ส่งภาพมาได้ที่ iamsk@outlook.com นะครับ

 

เทคนิค: การถ่ายภาพแบบ Panorama

iOS 6 ได้เพิ่มความสามารถในการถ่ายภาพแบบ Panorama ได้แล้ว (สำหรับ iPhone 4S, iPhone 5, iPod Touch 5th Generation) ซึ่งพอเปิดโปรแกรมกล้อง แล้วเลือกรูปแบบการถ่ายรูปแบบ Panorama แล้วจะพบกับภาพนี้

20121031-160712.jpg

ซึ่งเป็นหน้าจอที่แสดงวิธีการถ่ายภาพแบบ Panorama ที่มีลูกศรชี้ไปทางด้านขวา หมายความว่าให้เราค่อย ๆ เลื่อน iPhone ไปทางด้านขวาเพื่อเก็บภาพไปเรื่อย ๆ จนครบ 270 องศา

แต่บางคนอาจจะไม่ทราบว่า เราสามารถสลับข้างเป็นการเลื่อนเพื่อเก็บภาพไปทางด้านซ้ายได้ด้วย วิธีการก็ง่าย ๆ เพียงแค่แตะที่ลูกศรสีขาวที่ชี้ไปทางด้านขวา จะทำให้ลูกศรกลับกลายมาเป็นชี้ไปทางด้านซ้ายแทน จากนั้นคุณเพียงกดปุ่มถ่ายรูป แล้วก็เริ่มต้นเลื่อน iPhone ไปทางด้านซ้าย เพื่อเก็บภาพได้เลย

20121031-160721.jpg

Apple เข้าใจการออกแบบและคิดเผื่อเอาไว้ให้แล้ว เพราะว่าอาจจะมีบางกรณีที่คุณไม่สามารถที่จะเลื่อน iPhone ไปทางด้านขวาได้ เช่น ติดมุมเสา จึงทำให้ต้องเปลี่ยนกลับมาเป็นเลื่อน iPhone ไปทางด้านซ้ายแทนได้ นี่คืออีกหนึ่งของความรอบคอบของการออกแบบ iOS ที่ไม่ลืมแม้แต่จุดเล็ก ๆ ครับ

นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องของ UI ที่ Apple ได้ออกแบบมาเป็นอย่างดีของ iOS ที่ผมเขียนไปก่อนหน้านี้ เชิญอ่านครับ

– เทคนิค: การพิมพ์ตัวเลขไทยใน iOS
– ความเจ๋งในการออกแบบ UI ของ iOS

 

สุดท้าย ไม่ทราบว่าคุณ ๆ ได้ update iOS 6 กันไปแล้วหรือยัง ถ้า update กันแล้ว ผมก็ขอแนะนำให้อ่านบทความและดูวีดีโอเกี่ยวกับ iOS 6 ที่ผมได้ทำไปก่อนหน้านี้ เพื่อช่วยเป็นแนวทางในการเริ่มต้นใช้งาน iOS 6 ให้ได้เต็มทีครับ

– วีดีโอ: What’s new in iOS 6
– Feature: iOS 6 Reply with Message

 

เทคนิค: การพิมพ์ตัวเลขไทยใน iOS

ผมไม่แน่ใจว่าการพิมพ์ตัวเลขไทยมีคนไทยใช้มากน้อยสักแค่ไหน แต่ Apple ไม่ได้ลืมที่จะใส่มาให้ใน iOS และผมก็ไม่แน่ใจอีกเหมือนกันว่ามีมาตั้งแต่ iOS แรกที่มี Keyboard Thai เลยหรือไม่

แต่พอผมได้อ่านคู่มือของ iOS 6 ที่ออกมาพร้อม ๆ กับ iPhone 5 ในหน้าท้าย ๆ มีคำอธิบายเพิ่มเติมถึงวิธีการพิมพ์ตัวเลขไทยเอาไว้ด้วย (ต้องบอกก่อนว่าผมเคยอ่านคู่มือของ iPhone/iOS มาแล้วทุกรุ่น แต่อาจจะไม่ได้สังเกตุหน้าท้าย ๆ ก็เลยไม่แน่ใจว่ามีรายละเอียดนี้หรือไม่ และตอนนี้หาไฟล์เก่า ๆ ไม่เจอ)

เพิ่มเติม: ผมไปค้นเจอไฟล์คู่มือ iOS 4 และ iOS 5 มีเขียนเอาไว้เรื่องการพิมพ์ตัวเลขไทยด้วย นี่เป็นสิ่งดี ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับคนไทยที่ Apple ไม่ได้ลืม

ตามรูปข้างบนเลยครับ เพียงแค่กดตัวเลขอารบิคค้างเอาไว้สักครู่ เลขอารบิคนั้น ๆ ก็จะกลายเป็นเลขไทยที่ตรงกัน เรื่องง่าย ๆ ที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ ซึ่งรวมทั้งผมด้วยคนนึง คงจะมีประโยชน์นะครับ

Features: iOS 6’s Reply with Message

ความสามารถใหม่หนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาใน iOS 6 ซึ่งเป็นความสามารถที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์อย่างมาก เรียกว่า “Reply with Message” อธิบายง่าย ๆ คือผู้ใช้สามารถสามารถตอบข้อความกลับไปยังผู้ที่โทรศัพท์เข้ามาจากหน้าจอที่แสดงสายที่โทรศัพท์เข้ามา (โดยไม่ต้องเข้าโปรแกรม iMessage) ซึ่งสามารถเลือกข้อความสั้น ๆ (SMS) ที่กำหนดเอาไว้ล่วงหน้า แล้วส่งข้อความนั้น ๆ กลับอย่างรวดเร็วในเวลาที่ไม่สะดวกที่จะรับสาย เช่น “กำลังประชุม เดี๋ยวจะติดต่อกลับไป” เป็นต้น

มาลองดูกันว่าคุณจะใช้ความสามารถนี้อย่างไร

เริ่มจากการเข้าไปดูการตั้งค่ากันก่อน เริ่มจากแตะเข้าไปที่ Settings -> Phone -> Reply with Message ก็จะพบกับหน้าจอข้างล่างนี้ เป็นหน้าจอที่จะให้ผู้ใช้ปรับเปลี่ยนข้อความที่จะใช้เป็นข้อความสำหรับตอบกลับ ซึ่งมีข้อความที่กำหนดเอาไว้เป็นค่าปริยาย (Default) อยู่แล้ว 3 ข้อความ คือ I’ll call you later, I’m on my way, และ What’s up?

รูปที่ 1 : การตั้งค่า

อ่านต่อ » Features: iOS 6’s Reply with Message

iOS 5 Tips EP 6: Software Update

มาถึงตอนที่ 6 แล้วสำหรับ iOS 5 Tips เป็นเรื่องของการ update version ของ iOS ที่สามารถทำได้แบบ OTA (Over The Air) ภายในตัว iPhone, iPad, หรือ iPod Touch เอง โดยไม่จำเป็นต้องอาศัย iTunes อีกต่อไป ซึ่งถ้าคุณใช้ iOS 5 อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใด ก็จะสามารถ Update ไปที่ iOS Version ล่าสุดได้ทันที เพียงแค่เชื่อมต่อกับ WiFi ก็สามารถ update iOS ของคุณได้ ลองชมกันครับ

ตอนที่แล้ว:

– iOS 5 Tips EP 1: Notifications Center
– iOS 5 Tips EP 2: Weather App
– iOS 5 Tips EP 3: AssistiveTouch
– iOS 5 Tips EP 4: Custom Vibrations
iOS 5 Tips EP 5: LED Flash for Alerts

 

iOS 5 Tips EP 5: LED Flash for Alerts

มาถึงตอนที่ 5 แล้วสำหรับ iOS 5 Tips ตอนนี้เป็นเรื่องของการปรับแต่งและใช้งาน LED Flash ให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น ลองชมกันครับ

ตอนที่แล้ว:

– iOS 5 Tips EP 1: Notifications Center
– iOS 5 Tips EP 2: Weather App
– iOS 5 Tips EP 3: AssistiveTouch
– iOS 5 Tips EP 4: Custom Vibrations

 

iOS 5 Tips EP 4: Custom Vibrations

มาต่อกันกันอีกกับ iOS 5 Tips ที่ TPUG.org นำเสนอมาแล้ว 3 ตอน มาถึงตอนที่ 4 นี้เป็นเรื่องของเทคนิคในการปรับแต่ง Custom Vibrations

ตอนที่แล้ว:

– iOS 5 Tips EP 1: Notifications Center
iOS 5 Tips EP 2: Weather App
iOS 5 Tips EP 3: AssistiveTouch

iOS 5 Tips EP 3: AssistiveTouch

มาติดตามกันต่อกับ iOS 5 Tips ที่มาถึงตอนที่ 3 แล้วครับ ตอนนี้คือเทคนิคการเปิดและใช้งาน AssistiveTouch

 

ตอนที่แล้ว:
– iOS 5 Tips EP 1: Notifications Center
iOS 5 Tips EP 2: Weather App